วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

USS Enterprise (CVN-65)

ยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์ (USS Enterprise: CVN-65) เป็นเรือบรรทุกอากาศยานของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และเป็นเรือบรรทุกอากาศยานที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ลำแรกของโลก ประจำการมาตั้งแต่ ค.ศ. 1960 โดยตั้งชื่อตามชื่อเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นยอร์กทาวน์ ยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์ (CV-6) ที่มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นเรือลำที่แปดของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ที่ใช้ชื่อ "ยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์"

ยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์ (CVN-65) มีฉายาว่า "Big E" เป็นเรือเพียงลำเดียวในชั้นเอนเทอร์ไพรซ์ ซึ่งเดิมมีแผนการสร้างทั้งสิ้นจำนวน 6 ลำ แต่ได้ระงับไปเนื่องจากขนาดที่ใหญ่โต มีโครงสร้างเตาปฏิกรณ์ปรมาณูถึง 8 เตา ทำให้ค่าก่อสร้าง จำนวนลูกเรือประจำการลำละกว่า 4,600 คนและค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการสูง ถูกแทนที่ด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นนิมิตซ์จำนวน 10 ลำ ที่มีเตาปฏิกรณ์เพียง 2 เตา และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามากแทน

ทางกองทัพเรือสหรัฐอเมริกากำหนดการปลดระวางเรือยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์ในปี ค.ศ. 2013 หลังจากที่มันถูกใช้งานมากว่า 51 ปี นานกว่าเรือบรรทุกเครื่องบินใดๆของกองทัพเรือสหรัฐโดยให้เรือ ยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์. ฟอร์ด (CVN-78) ที่จะสร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 2014-2015 มาประจำการแทน

จุดเริ่มต้นของ CVN 65
15 พฤษจิกายน 1957 อู่ต่อเรือ Newport News ได้รับสัญญาที่มีความหมายมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
สัญญาต่อเรือ USS Enterprise (CVN 65) ชื่อที่เคยถูกใช้ในเหล่าบรรดาเรือที่มีประวัติยุทธนาวีใประวศาสตร์
กองทัพเรืออเมริกัน Enterprise เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดตั้งเตาปฏิกรณ์ นิวเคลียร์
สัญญาต่อเรือลำนี้เป็นสัญญาฉบับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งในด้านวิศวกรรมและโครงสร้างสำรับการสร้างเรือหนึ่งลำ มันเป็นจุดเริ่มต้น
ของยุคที่เรือรบจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์๋ เริ่มต้นจากEnterprise เรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันทุกๆลำต่อไปนี้
จะต้องขับเคลื่องด้วยเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์และต่อจากอู่ต่อเรือ Newport News


เรือถูกสร้างเพื่อประกาศความกล้าหาญ พลัง และความเฉลียวฉลาดแห่งอเมริกา ในยุคที่โลกถูกปกคลุมด้วยวิกฤตการคุกคาม
ทางสงครามอาวุธนิวเคลียร์ เรือได้ถูกวางกระดูกงูในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 1958 ระยะเวลาการสร้างทั้งสิ้นสามปีภายใต้
กฎการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดนั้นก่อให้เกิดประสบการณ์ในการต่อเรืออย่างมาก เรือลำนี้โดดเด่นด้วยระบบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ซึ่งมีการปกป้องเป็นอย่างดีขั้นตอนในการต่อเรือได้ถูกปกปิดเป็นความลับ อย่างไรก็ตามได้มีข้อมูลและภาพถ่ายบางส่วนของ CVN-65 
หลุดออกไปสู่สาธารณะชน เนื่องด้วยการเเข่งขันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนิวเคลียร์เป็นสิ่งสำคัญมาก การรักษาความปลอดภัย
ในพื้นที่อู่ต่อเรือจึงมีความสำคัญสูงสุด เมื่อเข้าประจำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 25พฤษจิกายน1961 เลขาธิการกองทัพเรือ John B. Connally Jr.ได้กล่าวว่า "Enterprise จะเป็นราชินีแห่งท้องทะเลไปอีกนานแสนนาน" คำพูดของเขาได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง
เป็นที่ยอมรับในกองทัพเรือ มีทหารเรือ 250000 คนโดยประมาณที่เคยเป็นลูกเรือของ Enterprise เรือลำนี้ได้เข้าไปมีส่วน
ในความขัดแย้งและสงครามทุกครั้งนับตั้งแต่เข้าประจำการ ปี1962 เพียงหนึ่งปีหลังจากเข้าประจำการ เธอได้เข้าร่วมปฏิบัติการปิดล้อม
คิวบา ระหว่างวิกฤตการ ขีปนาวุธคิวบา ระหว่างสงครามเวียดนาม "BigE" กลายเป็นเรือรบนิวเคลียร์ลำแรกที่เข้าร่วมการต่อสู้
และทำยอดรวมการเข้าสู่สมรภูมทั้งสิ้น6ครั้งตลอดระยะเวลาที่เข้าประจำการ หลังจากผ่านไป50ปี USS Enterprise ยังคงความเป็นสุดยอดแห่งเรือบรรทุกเครื่องบิน เธอยังคงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่
ยาวที่สุดด้วยความยาว 1123feet เธอยังคงเป็นที่ตั้งของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์8ตัว เป็นเรือลำเดียวที่มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์มากกว่า2ตัว
และยังคงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มัน้ำหนักมากที่สุดรองจากเรือชั้น Nimitz 10ลำ ที่ถูกสร้างขึ้นต่อจากเธอ ที่สำคัญที่สุด เธอยัง
คงมีชื่อเสียงไปตลอดการด้วยการเป็นเรือรบที่ขับเคลื่อนด้วยเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เป็นลำแรก เมื่อเธอกลับเข้าสู่การเติมเชื้อเพลิงครั้งแรก
ในปี1964 เธอเดินทางมาแล้วมากกว่า200000ไมล์ และเดินทางรอบโลกในเวลา64วัน ตราบจนวันนี้ผ่านมากว่า50ปีEnterprise
ยังคงเป็นเรือที่เปี่ยมประสิทธิภาพ วันที่1ธันวาคม2012 มีการเฉลิมฉลองครบรอบ51ปีอย่างเป็นทางการ ในการที่เธอรับใช้อเมริกา

คุณลักษณะของ เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส เอ็นเตอร์ไพร์ส
-ประจำการอยู่ที่ท่าเรือ Norfolk , Virginia สหรัฐอเมริกา

-ผู้บังคับการ กัปตัน Ronald Horton

-น้ำหนักบรรทุก มาตราฐาน 73,858 ตัน น้ำหลักบรรทุกสูงสุด 92,325 ตัน

-ความยาว 342 เมตร

-ขับเคลื่อนด้วย 8 x eWestinghouse A2W nuclear reactors, four sets Westinghouse geared steam turbines, 4 shafts 280,000 shp shp (210 MW)

-ความเร็ว 62.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง ( 33.6 น็อท )

-พลประจำการ 3,000 นาย ( เป็น ทหราเรือ 2,700 นาย ผู้บังคับการ 150 นาย นายทหรา 150 คน ) แต่สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 5,828 คน

-ปืนใหญ่ประจำการ แบบ NATO Sea Sparrow launchers 2 กระบอก , 20 mm Phalanx CIWS mounts 2 กระบอก , RAM launchers 2 กระบอก

-เกราะ ทำจาก Aluminum หนา 20 เซ็นติเมตร เทียบเท่า เหล็กหนา 10 เซ็นติเมตร

-สามารถบรรทุกเครื่องบินได้สูงสุด 90 ลำ มาตราฐาน 70 ลำ

รูปเปรียญเทียบ ระหว่าง เรือบรรทุกเครืองบิน ยูเอสเอส เอ็นเตอร์ไพร์ส กับเรืออื่น และสิ่งก่อสร้าง
-เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส เอ็นเตอร์ไพร์ส 342 เมตร ( สีเหลือง )
-ตึกที่ทำการกระทรวงกลาโหม สหรัฐ เพ็นตาก้อน ( The Pentagon ) สีน้ำเงินอ่ิอน
-เรือ RMS Queen Mary 2 ยาว 345 เมตร ( สีม่วง)
-เรือเหาะ ฮินเดนเบิร์ก Hindenburg 245 เมตร ( สีเขียว )
-เรือรบ ยามาโต้ Yamato 263 เมตร ( สีน้ำเงินเข้ม )
-ตึกเอ็มไพร สเตรท Empire State Building 443 เมตร ( สีเทา )
-เรือบรรทุกน้ำมัน Knok Nevis 458 เมตร ( สีแดง )





















































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น